ร้านขาย ที่หนีบผม เครื่องหนีบผม ราคาส่งถูก ๆ  มีทั้งแบบไร้สายและแบบมีสาย พร้อมจำหน่ายไม่ว่ายี่ห้อไหนดี ๆ เราคัดสรรมาให้คุณเป็นเจ้าของ มั่นใจด้วยเครื่องรีดผมจากร้าน HVGROUP ช่วยให้ตรงสวย มีทั้งขนาดพกพาได้ อันเล็กมินิ กะทัดรัด ไปจนถึงขนาดใหญ่ จัดแต่งทรงผมได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้ชาย หรือคุณผู้หญิง สินค้าราคาถูกสุดในแหล่ง ร้านสำเพ็ง คลองถม บ้านหม้อ มั่นใจไม่ผิดหวัง เลือกตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการได้ไม่ยาก

แนะนำที่หนีบผมราคาถูก รีดผมได้ดั่งใจ ไม่มีผิดหวัง!

หลากหลายด้วยเครื่องหนีบผม ที่จะช่วยรีดผมของคุณให้ตรงสวยดั่งใจต้องการ ร้อนเร็ว สวยไว ไม่ต้องรอนาน แถมป้องกันปัญหาผมเสียได้ แม้จะใช้งานทุกวันก็แทบไม่ต้องเป็นกังวล มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น และหลายขนาด ตามสไตล์การใช้งาน และความนิยมในช่วงเวลานั้น ๆ

อุปกรณ์ชิ้นนี้คือสินค้ายอดฮิตตลอดกาล อัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุด ให้คุณได้สัมผัสเทรนด์สินค้าคุณภาพอย่างต่อเนื่อง  คัดสรรอุปกรณ์ที่ใช้งานได้สะดวก มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ และคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ ทุกชิ้นในร้านของเรา บอกเลยว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง มั่นใจด้วยราคาที่ถูกกว่าในแหล่งสำเพ็ง คลองถม บ้านหม้อ

ซื้อทั้งที…เลือกเครื่องหนีบผม ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ที่ตอบโจทย์?

ในปัจจุบันเรื่องสวย ๆ งาม ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของผิวหน้าหรือผิวกายเท่านั้น แต่เส้นผมก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญไม่แพ้กัน อุปกรณ์อย่างที่หนีบผมจึงกลายมาเป็นผู้ช่วยในการจัดแต่งทรงผมให้ได้ดั่งใจ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเส้นผมชี้ฟู ผมหยักศกไม่ได้ทรง เพียงใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้เข้าช่วย ก็ทำให้เส้นผมดูตรงสวย สร้างความมั่นใจได้ไม่ยากในทุกเช้าวันใหม่ และด้วยการตอบโจทย์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ทำให้สินค้าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการผลิตออกมาวางจำหน่ายหลายยี่ห้อ หลายรุ่น จนทำให้หลายคนเริ่มตัดสินใจลำบากว่าจะซื้อแบบไหนที่ใช้งานได้ตรงความต้องการมากที่สุด ด้วยประสบการณ์ของเราที่มีมายาวนาน จะมาบอกวิธีเลือกซื้อเครื่องเสริมความงามเส้นผมชนิดนี้ให้ได้รู้ เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณไม่ผิดหวัง ไม่ใช่แค่เรื่องยี่ห้อเท่านั้น แต่คุณต้องพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ร่วมด้วย จะได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เลือกใช้เครื่องรีดผมที่ใช่ที่สุด

  1. เลือกรูปทรงของที่หนีบผมให้เหมาะกับการใช้งาน

    รูปทรงของที่หนีบผมเป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองข้าม อย่าลืมว่าตัวรูปทรงมีผลกับการสร้างสรรค์ทรงผมในแบบที่คุณต้องการอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันจะมีการออกแบบให้มีทั้งทรงมาตรฐานคือที่หนีบแบบแบน คือการใช้งานสำหรับหนีบให้ผมที่ชี้ฟูตรงสวย ไม่ได้เน้นเพิ่มวอลลุ่มอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าใครอยากให้ผมตรงไม่มากจนเกินไป อยากจัดทรงให้ดูมีน้ำหนัก จะมีรูปทรงแบบโค้งที่สามารถทำหน้าที่เป็นทั้งตัวช่วยให้ผมตรงและสร้างลอนเบา ๆ ได้ไม่ทำให้เส้นผมดูหักงอ โดยที่ตัวแผ่นความร้อนจะมีขนาดที่แคบกว่า ใช้งานสร้างลอนได้ง่ายกว่า แต่อาจจะหนีบตรงได้ช้ากว่าชนิดแรก ส่วนอีกแบบที่นิยมใช้คือใช้งานทั้งหนีบและม้วนลอนได้พร้อมกัน เป็นชนิด 2 Way ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนที่อยากทำผมลอน และลดการชี้ฟูไปพร้อม ๆ กัน แต่ข้อเสีย ถ้าใครที่ต้องการหนีบให้ผมตรงอย่างเดียว อาจจะเสียเวลามาก เพราะตัวแผ่นความร้อนแคบกว่าแบบอื่น ให้ความร้อนได้ช้ากว่า ดังนั้นก็ต้องพิจารณากันให้ดี

  2. เลือกวัสดุแผ่นความร้อนที่มีคุณภาพ

    แผ่นวัสดุที่ใช้เป็นตัวทำความร้อน ซึ่งจะสัมผัสโดยตรงกับเส้นผม มีให้เลือกอย่างหลากหลาย มีทั้งแบบทั่วไป และแบบที่ช่วยปกป้องเส้นผม ราคาถูกและแพงขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย โดยทั่วไป จะมีตั้งแต่วัสดุเทฟล่อน, ทัวร์มาลีน, ไททาเนียม และแบบเซรามิกที่ได้รับความนิยม แต่จะมีราคาสูงกว่าแบบอื่น ถ้าใครใช้งานเป็นประจำ แนะนำให้เลือกเป็นเซรามิกหรือทัวร์มาลีน แต่ถ้าใครไม่ค่อยได้ใช้บ่อย เน้นการใช้งานแบบร้อนเร็วได้ดั่งใจ มั่นใจว่าเส้นผมแข็งแรงมากพอ ก็เลือกเป็นแบบเทฟลอนหรือไททาเนียมก็ได้ จะได้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย

  3. อย่าลืมเช็คระดับความยาวของเส้นผม

    บางคนซื้อที่หนีบผมที่มีขนาดเล็ก แผ่นความร้อนแคบ เพราะเห็นว่าราคาถูก แต่เส้นผมตัวเองหนา ฟู และยาว การใช้งานจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะแผ่นความร้อนทำงานได้ไม่ทั่วถึง ใช้เวลาในการรีดผมนานกว่าปกติ แนะนำว่าถ้าใครที่เป็นสาวผมสั้น ให้เลือกแผ่นความร้อนขนาดกว้างประมาณ 9-15 มม. กำลังดี ซึ่งจะร้อนเร็ว และทำให้ผมตรงสวยได้แบบไม่เสียหาย ส่วนใครที่ผมยาวประบ่า หรือแบบผมบ๊อบ แผ่นทำความร้อนควรกว้างขึ้นมาเป็น 25-35 มม. กำลังดี ส่วนสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่ผมยาวถึงแผ่นหลัง แบบเลยบ่าลงไป ถ้าไม่อยากให้ตัวเองเสียเวลากับการหนีบผมมากจนเกินไป แนะนำว่าควรเลือกซื้ออุปกรณ์ที่แผ่นความร้อนมีขนาดกว้างประมาณ 40-45 มม. เพราะจะช่วยหนีบผมได้ทีละมาก ๆ ร้อนไว จัดแต่งทรงให้เข้าที่เข้าทางได้ไวขึ้นด้วย

  4. เลือกซื้อชนิดที่มีฟังก์ชั่นเสริมให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด

    อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าอุปกรณ์เหล่านี้มีนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นตามเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้มีฟังก์ชั่นที่ออกมาตอบโจทย์การใช้งานให้ง่ายขึ้่นกว่าสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นระบบเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสม ระบบป้องกันผมเสีย ระบบตัดไฟอัตโนมัติ แบบชาร์ตแบตฯ ได้ สามารถใช้งานแบบไร้สายหรือถ้าเป็นแบบมีสาย ก็สามารถหมุนได้ 360 องศา แก้ปัญหาสายไฟพันกันได้อีกด้วย

ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกซื้อแบบไหน ฟังก์ชั่นจัดเต็มแค่ไหน อย่างไรก็ควรพิจารณาตามรายละเอียดที่บอกไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อหรือรุ่นไหน ๆ ก็ตาม การใช้ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์นั้นคือสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม

ข้อควรรู้การเลือกเครื่องรีดผมแบบไร้สาย VS มีสาย แบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

ในยุคนี้อะไร ๆ ก็ดูจะไร้สายไปหมด เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์หนีบผมที่เชื่อว่าทุกบ้านจะต้องมี การจะตัดสินใจซื้อรุ่นที่เป็นแบบไร้สาย หรือแบบมีสาย อย่างไหนดีกว่ากัน… คำตอบจะต้องลองหันไปถามตัวเองก่อนว่าเน้นใช้งานแบบไหนเป็นพิเศษ หรืออาจเรียกว่าไลฟ์สไตล์ในการใช้งานของตัวเองเป็นอย่างไร ถ้าเป็นนักเดินทางตัวยง ไม่ค่อยอยู่ติดกับบ้าน และต้องดูแลเส้นผมให้ตรงสวยอยู่เสมอแล้วล่ะก็ การใช้รุ่นที่มีแบตเตอรี่ในตัว ไม่ต้องเสียบสายตลอดเวลา ใช้งานในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าก็ได้ แบบนี้ถือว่าเหมาะสมและสะดวกสบายกว่า เพราะเป็นการใช้งานแบบฉุกเฉิน ขนาดมักจะไม่ใหญ่ มีความกะทัดรัด ไม่หนักกระเป๋า

ส่วนใครที่อยู่บ้านเป็นหลัก ทำงานแบบเช้าเย็นกลับบ้าน แนะนำให้เลือกใช้เป็นรุ่นแบบมีสาย แม้จะรู้สึกเกะกะ แต่เอาจริง ๆ แล้วแบบมีสายสะดวกและง่ายต่อการใช้งานมากกว่า เนื่องจากเพลทหรือแผ่นความร้อนมีขนาดใหญ่ การให้ความร้อนรวดเร็วทันใจมากกว่า เมื่อเทียบกับแบบไร้สายมักจะใช้งานได้ 30-60 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เพราะการใช้พลังงานความร้อนสูง ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นาน ถ้าจะใช้งานภายในบ้าน จะไม่ค่อยสะดวก เพราะต้องมาคอยชาร์จบ่อย ๆ แถมคนที่ต้องหนีบผมทุกวัน จะยิ่งทำให้เสียเวลา

โดยสรุปแล้วทั้งแบบไร้สายและแบบมีสาย มีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวเอง ดังนั้นถ้าอยากใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อความสะดวกสบาย อย่าเพิ่งไปคิดแค่เรื่องสายที่เกะกะ แต่ให้คิดถึงระบบการทำงาน ไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน ถ้าต้องพกพาบ่อย ๆ แบบไร้สายคือคำตอบที่ดีกว่า แต่ถ้าอยู่กับบ้านทุกวัน แบบมีสายจะเป็นคำตอบที่ดีกว่านั่นเอง

เทคนิค ผมไม่เสีย! แค่ใช้ที่หนีบผมให้ถูกวิธี ผมสวยแบบไม่ต้องกลัวพัง!

อุปกรณ์สำหรับหนีบเส้นผมในปัจจุบันออกแบบส่วนของเพลทความร้อนให้ช่วยปกป้องเส้นผม ลดความเสียหาย และยังทำให้ผมตรงสวยดูเป็นธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน แต่การใช้งานบ่อยและผิดวิธี ก็เสี่ยงที่เส้นผมจะพังเสียหายได้ไม่น้อย

ดังนั้นลองมาดูเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผมสวยไม่ชี้ฟู และไม่เสียหายจากความร้อนเมื่อต้องรีดผมเป็นประจำทุกวัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่หลายคนนึกไม่ถึง

  1. หนีบแบบแบ่งช่อ
    การหนีบแบบแบ่งช่อผมออกเป็นส่วน ๆ จะช่วยให้คุณไม่ต้องหนีบผมซ้ำ ๆ หลายรอบในตำแหน่งเดิม เพราะการทำผมโดนความร้อนบ่อย จะทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง ผมส่วนไหนหนีบแล้วก็จะได้ไม่ต้องหนีบซ้ำ
  2. เพิ่มความร้อนที่ละนิด
    ถ้าตัวอุปกรณ์สามารถปรับระดับความร้อนได้ ให้เริ่มต้นหนีบด้วยอุณหภูมิต่ำ ๆ ก่อน แล้วค่อยไล่ระดับขึ้นไป เพราะถ้าใช้งานตอนอุณหภูมิสูงสุด ผมอาจจะเสียไม่รู้ตัว เพราะเส้นผมของแต่ละคนทนความร้อนได้ไม่เท่ากัน
  3. ปล่อยให้ผมหมาดจนเกือบแห้งก่อน
    ช่วงเวลาที่เส้นผมอ่อนแอที่สุดคือตอนที่สระผมมาใหม่ ๆ เกล็ดผมจะเปิดออก ดังนั้นอย่าให้ผมโดนความร้อนในช่วงเวลานี้ ควรปล่อยให้ผมแห้งเกือบหมาดก่อนแล้วค่อยเริ่มจัดการหนีบผมตามวิธีข้างต้น
  4. ดูแลเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
    แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้เจอกับปัญหาผมเสีย แต่กระนั้นแล้วก็จะต้องคอยดูแลเส้นผมของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพราะการที่ผมเจอความร้อนทุกวัน ก็ย่อมทำให้เกิดความอ่อนแอตามมาได้ ดังนั้นก่อนหนีบผมให้ใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเส้นผมกันร้อนก่อน ส่วนเวลาสระผมให้บำรุงด้วยทรีทเม้นต์เข้มข้นเพิ่มไปด้วย

เครื่องหนีบผมอันเล็กมินิ ซื้อแบบไหนให้ใช้งานได้สะดวก

เครื่องหนีบผมขนาดเล็กเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ ซึ่งมีทั้งชนิดไร้สายและแบบมีสาย ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ทำให้มันมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเลือกซื้อเป็นยี่ห้อหรือรุ่นไหนก็ตามในท้องตลาด มีสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อดังต่อไปนี้

  1. ระดับความร้อน

    ระดับความร้อนหรืออุณหภูมิของตัวเครื่องที่สามารถทำได้ โดยส่วนใหญ่จะไม่มีระดับอุณหภูมิให้เลือก จะเป็นแบบปุ่มเปิด-ปิด การทำงานเท่านั้น เพราะฉะนั้นให้ดูรายละเอียดสินค้าก่อนว่าระดับอุณหภูมิสูงสุดทำได้แค่ไหน เพราะด้วยขนาดที่เล็ก ความร้อนจะไม่ดีเท่าเครื่องใหญ่ ทำให้การเซ็ตผมทำได้ช้ากว่า ทางที่ดีควรเลือกยี่ห้อที่ร้อนเร็ว อุณหภูมิสูงสุดให้ได้มากกว่า 180 องศา ขึ้นไป จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหนีบผมนาน ๆ

  2. ลักษณะการออกแบบตัวเครื่อง

    ด้วยขนาดที่เล็ก เครื่องที่ออกแบบมาได้ไม่ดี เมื่อเปิดใช้งาน จะทำให้ความร้อนกระจายตัวไปทั่วจนถึงส่วนที่จับได้ ทำให้ใช้งานลำบาก ดังนั้นก่อนซื้อให้ทดลองเปิด ให้ความร้อนทำงาน แล้วลองเทสก่อนว่าจับถนัดมือ ความร้อนไม่กระจายถึงที่จับ หนีบง่าย ไม่ต้องออกแรงเยอะ และน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการพกพานั่นเอง

  3. เลือกแบบที่มีระบบตัดไฟได้

    ระบบตัดไฟเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุปกรณ์เล็ก ๆ แบบนี้ เพราะด้วยอุณหภูมิส่วนใหญ่ที่เพิ่มสูงขึ้นเพียงค่าเดียว เมื่อถึงจุดสูงสุดจะต้องมีระบบตัดการทำงาน ไม่ให้ความร้อนเพิ่มสูงจนอาจเกิดอันตราย จะได้ช่วยให้ความร้อนคงที่ และสม่ำเสมอทุกครั้ง และเพื่อป้องกันสำหรับการใช้งานที่อาจถูกเปิดทิ้งเอาไว้นานหลายชั่วโมง

  4. เลือกชนิดที่มีไฟแสดงสถานะ

    ไฟแสดงสถานะในที่นี้อาจรวมไปถึงไฟแสดงสถานะเมื่อเปิดเครื่อง เพื่อแสดงว่าตัวเครื่องกำลังทำงาน หรือแบบที่มีไฟหน้าจอ LCD แสดงอุณหภูมิ ถ้าตัวอุปกรณ์มีฟังก์ชั่นแบบนี้ แนะนำให้พิจารณาเอาไว้เป็นลำดับแรก ๆ ก่อนได้เลย เพราะเวลาเปิดใช้งาน จะได้รู้ว่าไฟเข้าหรือไม่เข้ากันแน่

วิธีเลือกซื้อที่หนีบผมสำหรับผู้ชาย ตอบโจทย์ให้ตรงใจที่สุด

หนุ่ม ๆ ที่รักการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะการจัดทรงผมให้ไม่ชี้ฟู ช่วยเพิ่มเสน่ห์ความหล่อให้กับตัวเอง อุปกรณ์อย่างที่รีดผมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเซตทรงผมให้หนุ่ม ๆ ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องความยาวของเส้นผมที่สั้นจนเกือบจะติดหนังศีรษะ ดังนั้นการเลือกซื้ออุปกรณ์หนีบผมสักตัว จะต้องเลือกที่ใช้งานได้สะดวกและตอบโจทย์ ซึ่งวิธีเลือกหลัก ๆ ก็ไม่ต่างจากการเลือกที่หนีบตามมาตรฐานทั่วไปที่กล่าวไปข้างต้น

ที่สำคัญคือให้เลือกซื้อชนิดที่ปรับอุณหภูมิได้ เพราะเส้นผมของแต่ละคนทนความร้อนได้แตกต่างกัน ยิ่งผมสั้นและผมไม่ได้หนาเหมือนสาว ๆ ยิ่งไม่ควรใช้ความร้อนสูงสุด และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ “แผ่นเพลท” จะต้องไม่กว้างจนเกินไป เป็นเพลทหน้าแคบ เพื่อช่วยให้ใช้งานหนีบผมได้คล่อง หนีบได้ถึงโคน และทั่วถึงมากกว่า จากนั้นก็ใช้มูสแต่งผลหรือแว็กซ์เพื่อช่วยเซ็ตทรงผมอีกที จะได้หล่อได้ดั่งใจ ผมไม่เสียทรงตลอดวันอีกด้วย

ไขข้อสงสัย…ที่หนีบผม พกขึ้นเครื่องได้ไหม ?

หลาย ๆ คนที่เคยพกที่หนีบผมติดกระเป๋าไปด้วยระหว่างเดินทาง โดยทั่วไปจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้น ซึ่งการพกอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนี้ไปด้วยไม่ถือว่าเป็นอันตรายหรือมีข้อห้ามอะไร แต่ถ้าเป็นการนำขึ้นเครื่องบินไปด้วย เชื่อว่าหลายคนอาจสงสัยว่าพกขึ้นไปด้วยได้หรือเปล่า ทั้งแบบโหลดใต้เครื่องหรือพกติดกระเป๋าส่วนตัวไปบนเครื่องด้วยได้ไหม…?

คำตอบก็คือ “ได้” ตามมาตรฐานของการบิน คุณสามารถนำเจ้าอุปกรณ์ขึ้นไปด้วยได้ เพียงแต่ว่าจะต้องโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง ไม่พกติดขึ้นไปนั่งด้วย อย่างไรก็ตามข้อกำหนดของสายการบินแต่ละที่อาจมีข้อห้ามที่แตกต่างกันออกไป บางที่ค่อนข้างยืดหยุ่น แต่บางที่ก็เข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องของที่หนีบแบบไร้สาย ซึ่งมีลักษณะไม่ต่างอะไรจากพาวเวอร์แบงค์ ถ้าเป็นรุ่นที่ถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ จะต้องดูที่ปริมาณความจุของไฟด้วยว่าเกินกว่าที่สายการบินกำหนดไหม

ทางที่ดีแนะนำให้โหลดเอาไว้ใต้เครื่องพร้อมกระเป๋าสัมภาระจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้ายเข้า ย้ายออก ทั้งนี้เพื่อความมั่นใจ ควรอ่านกฎระเบียบของสายการบินให้ชัดเจนว่าอะไรบ้างที่เป็นของต้องห้าม จะได้ไม่ถูกริบไปให้เสียใจเล่น

อุปกรณ์หนีบผมถือว่าเป็นตัวช่วยยอดฮิตตลอดกาลในเรื่องความสวยความงาม พกไว้ไม่ได้ใช้ แต่สบายใจที่จะเอาติดกระเป๋า หรือติดบ้านไว้ด้วยเสมอ ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาสินค้าคุณภาพแบบนี้ ลองแวะมาดูที่ร้านขายส่งของเรา ที่มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายขนาด เหมาะสำหรับทุกคน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน และมีคุณภาพที่คุณไว้วางใจได้อย่างแน่นอน