ร้านขายส่งไม้ตียุง ไม้ช็อตยุง แรง ๆ มาตราฐาน มอก. ราคาถูก

ร้านขายส่ง ไม้ตียุง ไม้ช็อตยุง คุณภาพสูง มาตรฐาน มอก. วงจรระบบไฟฟ้าทวีแรงดันสูง เพิ่มพลังช็อตเป็นเท่าตัว แบตลิเธียมเปลี่ยนได้ ใส่ถ่านชาร์จ 18650 ไม่ต้องกลัวว่าชาร์จกี่ชั่วโมงก็ไม่เข้า เรารับประกันคุณภาพ วิธีชาร์จง่าย ไม้ตียุงยี่ห้อไหนดี แรง ๆ มีให้เลือก ซื้อที่ไหนก็ไม่มั่นใจเท่ากับซื้อที่ร้านขายส่ง  HV ร้านใหญ่หลากหลายสินค้าจุใจ ในแหล่งของบ้านหม้อ คลองถม สำเพ็ง

เป็นเจ้าของไม้ตียุงอย่างดี คุณภาพสูง มั่นใจด้วยมาตรฐาน มอก.

ร้าน HV ขอนำเสนอ อุปกรณ์เพื่อดูแลคุณและคนที่คุณรักด้วยไม้ตียุงหรือที่เรียกกันว่าไม้ช๊อตยุง ตัวช่วยกำจัดยุงร้ายให้สิ้นซากแบบไม่ต้องกลัวว่าพวกมันจะกลับมาสร้างความรำคาญได้อีก ที่ร้านของเรามีจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายขนาด มั่นใจด้วยมาตรฐานการผลิตผ่าน มอก. มาแล้ว ราคาเริ่มต้นถูก ๆ มีทั้งแบบธรรมดา ไปจนถึงแบบที่ใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่นในตัว หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตัวนี้กันอยู่แล้วล่ะก็ ลองแวะมาที่ร้านเรา แล้วจะพบกับความอลังการของสินค้า เลือกซื้อกันได้แบบไม่จำกัดเวลา พร้อมให้คำปรึกษาช่วยประกอบการตัดสินใจ

แนะเทคนิค! เลือกซื้อไม้ตียุงยี่ห้อไหนได้ราคาถูกและดี?

การเลือกซื้อไม้ตียุงที่เป็นระบบไฟฟ้าในตัวนั้น ไม่ใช่ว่าจะหยิบตัวไหนก็ได้ที่หน้าตาอาจคล้าย ๆ กัน แต่เน้นไปที่ราคาถูกกว่าเอาไว้ก่อนถือว่าเป็นความคิดแบบผิด ๆ เนื่องจากตัวอุปกรณ์ใช้งานด้วยการนำส่งแรงดันไฟฟ้าที่มีความแรงสูงจนถึงขั้นช็อตยุงให้ตายได้นั้น ต้องดูหลายองค์ประกอบก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อความปลอดภัย และใช้งานได้อย่างคุ้มค่า  สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเรื่องของยี่ห้อและราคา มีดังต่อไปนี้

1. กำลังไฟในการช็อต
   

   กำลังไฟฟ้าของไม้ตียุงเป็นหัวใจสำคัญ เพราะถ้าแรงดันน้อย ก็จะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าแรงเกินไปก็ดูจะเสี่ยงอันตรายแถมไม่คุ้มค่า ดังนั้นกำลังไฟที่เหมาะสมควรอยู่ในระดับที่สามารถทำให้ยุงตายได้แบบไม่มีเล็ดลอดออกมาจากตัวอุปกรณ์ได้แม้แต่ตัวเดียว มีระบบประหยัดพลังงานในตัวด้วย ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานได้นานขึ้น

2. ความทนทานของวัสดุ
   

   ตัวอุปกรณ์จะต้องผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง โดยส่วนใหญ่ที่เราเห็นในท้องตลาด จะเป็นยี่ห้อที่ด้านนอกเป็นพลาสติกครอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้านในเอาไว้ โดยองค์ประกอบบริเวณด้ามจับจะมีสายไฟ แบตเตอรี่ และหัวเสียบชาร์จอยู่ ส่วนด้านบนจะเป็นตาข่าย ด้านนอกจะต้องเป็นตะแกรงอย่างดีเพื่อป้องกันขดลวดนำไฟฟ้าด้านใน ส่วนพลาสติกจะต้องเป็นชนิดทนไฟและทนความร้อนได้ดี ไม่ลามไฟ เป็นฉนวนคุณภาพสูง ป้องกันไม่ให้ไฟรั่วออกมาได้

3. ขนาดที่เหมาะสม
   

   เลือกขนาดของไม้ช็อตยุงที่พอดีกับการใช้งาน ไม่ใหญ่หรือเล็กจจนเกินไป บางคนเลือกซื้อขนาดเล็ก ๆ มาใช้ เพราะคิดว่าสะดวก แต่อาจทำให้เราไม่สามารถแกว่งไปโดนยุงเป้าหมายได้ เสียเวลาในการใช้งาน ดังนั้นแนะนำให้เลือกเป็นแบบหน้าตาข่ายใหญ่ขึ้นมา ดูลักษณะของด้ามจับกระชับมือ และมีน้ำหนักเบา เพื่อควบคุมการใช้งานได้สะดวก ไม่รู้สึกเมื่อยแขน

4. คุณภาพของแบตเตอรี่
   

   คุณภาพของแบตเตอรี่ที่บรรจุอยู่ในไม้ช็อตยุงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย เพราะถ้าเป็นแบตฯ ที่มีคุณภาพ จะสามารถใช้งานได้นานต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว แถมอายุการใช้งานยาวนาน ดังนั้นพยายามสังเกตค่าความจุของแบตเตอรี่ให้ดี และดูว่าเป็นแบบไหน รุ่นอะไร ซึ่งในปัจจุบันจะเป็นแบตลิเธียม 18650 ซึ่งได้รับความนิยม ใช้เวลาในการชาร์จรวดเร็วทันใจ ประหยัดพลังงาน จะได้ไม่ต้องคอยมาเสียเวลาเสียบชาร์จบ่อย ๆ

5. ระบบในการชาร์จ
   

   ระบบชาร์จมีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ แบบที่มีอะแดปเตอร์เป็นหัวเสียบต่อเข้ากับตัวอุปกรณ์ และอีกแบบคือมีขาออกมาจากตัวด้าม เสียบเข้ากับไฟบ้านได้เลย ทั้งนี้ถ้าเลือกซื้อแบบอะแดปเตอร์ก็ให้ดูด้วยว่าเป็นหัวเสียบแบบกลม แบบ Micro หรือแบบ Type-C จะได้เลือกใช้ชนิดที่สะดวก เหมาะสมกับตัวเอง แนะนำว่าหลีกเลี่ยงการใช้หัวชาร์จแบบกลม เพราะถ้าอะแดปเตอร์หาย ค่อนข้างยากที่จะหัวใหม่มาใช้แทน ต่างจากแบบ USB ที่เป็น Micro และ Type-C ที่ใช้งานโดยเอาสายที่มีขายในท้องตลาดทั่วไปมาชาร์จได้

6. ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม
   

   ฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ชนิดนี้ในปัจจุบัน มีมากกว่าแค่ระบบช็อต เช่น ไฟฉายที่ช่วยส่องสว่างหายุงในที่มืดหรือตอนกลางคืน ระบบที่มีแสงสีม่วงหรือที่เรียกว่า Black Light ดึงดูดยุงให้เข้ามารวมตัวกัน ช่วยให้ง่ายต่อการกำจัดในครั้งเดียว ไปจนถึงระบบการชาร์จแบบไม่ต้องมีอะแดปเตอร์ แต่มีหัวเสียบอยู่ที่ด้ามด้านล่างสุด เสียบชาร์จได้แบบไม่ต้องมีสายให้เกะกะ สะดวกต่อการพกพา พับเก็บได้ เป็นต้น

ไม้ตียุงแบบใส่ถ่านธรรมดา VS. ชาร์จแบตลิเธียม(18650) แบบไหนดีกว่ากัน?

ก่อนหน้านี้เราจะมีไม้ตียุงที่ใช้ไฟฟ้าจากถ่านธรรมดา ซึ่งต้องใส่ถ่านมากกว่า 3-4 ก้อน เพื่อให้มีแรงดันเพียงพอต่อการช็อตยุงได้ และด้วยข้อจำกัดด้านความจุของพลังงานไฟฟ้า ทำให้ต้องคอยเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ เสียเงินแล้วเสียเงินอีก จนทำให้รู้สึกว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ดูแพงและไม่จำเป็นในยุคนั้น

แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมามาก จากถ่านธรรมดาก็เปลี่ยนเป็นถ่านที่เก็บไฟได้นาน ใช้ระบบการชาร์จ มีแบตเตอรี่ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้นาน โดยเฉพาะแบตเตอรี่ 18650 ที่เป็นแบตฯ ลิเธียมคุณภาพ สามารถจ่ายกระแสไฟได้มากกว่า จุไฟได้มากกว่า ได้รับความนิยมในการนำมาใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างแพร่หลาย ดังนั้นหากถามว่าในปัจจุบันควรเลือกเป็นระบบถ่านใช้แล้วทิ้ง หรือถ่านแบบแบตเตอรี่ชาร์จ แน่นอนว่าอย่างหลังคือคำตอบที่ดีกว่าในทุก ๆ ด้านเลยก็ว่าได้

เข้าใจการทำงานของไม้ตียุงวงจรไฟฟ้าแบบทวีแรงดัน ทำงานอย่างไร?

ส่วนประกอบหลักของไม้ตียุงสมัยก่อนจะเป็นตะแกรงด้านนอกและด้านใน ไม่ใช่ตะแกรงแบบสามชั้นในปัจจุบัน ซึ่ง 2 ตะแกรงนี้จะอยู่ด้านนอกและด้านใน ทำหน้าที่เป็นขั้วบวกและขั้วลบ เมื่อแบตเตอรี่จ่ายไฟให้ตะแกรงทั้งสองขั้วแล้ว การจ่ายไฟอาจเป็นกระแสเบา ๆ เพียง 4-9 โวลต์เท่านั้น แต่ด้วยปริมาณไฟเพียงแค่นี้ไม่สามารถทำให้ยุงตายได้ ทว่ายุงมีส่วนของปีกและขาที่ยื่นออกมา จะสัมผัสทั้งสองตะแกรง เรียกว่าเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าอย่างครบวงจร แรงดันจะเพิ่มขึ้นด้วยแรงดันกระแสตรงราว 500 โวลต์ขึ้นไป ทำให้ในตัวยุงถูกกระแสไฟผ่าน เกิดการช็อตและตายในทันทีนั่นเอง

ไม้ตียุงแบตฯไฟแรงสูง ควรเลือกกี่โวลต์?

เป็นความเข้าใจผิดที่เราพยายามมองหาค่าโวลต์ที่เป็นกระแสไฟจากไม้ตียุงไฟฟ้า เนื่องจากค่าที่เป็นหัวใจสำคัญในการใช้งานคือแรงดัน เพราะฉะนั้นตัวแบตเตอรี่ที่มีวางจำหน่ายทั่วไป ใช้สำหรับเปลี่ยนไม้ตียุงเมื่อแบตฯ เสื่อมสภาพ จะพบว่ามีกระแสไฟเพียง 5 โวลต์ บ้างก็ 9 โวลต์ ในการเลือกแบตเตอรี่ตัวใหม่ แนะนำให้ดูที่หน่วยความจุของแบตเตอรี่ให้เพียงพอต่อการใช้งานจะดีกว่า

ส่วนแรงดัน โดยปกติถ้าอยากได้แบตเตอรี่แบบชาร์จทีเดียวแล้วใช้ได้นาน ให้เลือกค่าความจุราว 1000-2000 mAh ส่วนแรงดันจะเกิดขึ้นเองภายในวงจรของอุปกรณ์ จะทำงานช็อตยุงด้วยความแรงที่ 500-1000 โวลต์โดยประมาณ ยิ่งบางรุ่นที่ยอดฮิต มีคุณภาพหน่อย จะทวีแรงดันขึ้นไปอีก เวลาช็อตจะเสียงดัง ช็อตแรงกว่า ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อให้ลองเทสการใช้งาน เช็คคุณภาพแบตเตอรี่ให้ดี จะได้คุ้มค่า ไม่ต้องหาซื้อตัวใหม่บ่อย ๆ

ควรชาร์จไม้ตียุงไฟฟ้ากี่ชั่วโมง ถ้าไม่ได้ใช้งานนาน ๆ?

เนื่องจากในปัจจุบันไม้ช็อตยุงจะเป็นระบบที่มีแบตเตอรี่ในตัว ไม่ต้องคอยใส่ถ่านธรรมดา เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของตัวแบตฯ จะต้องหมั่นชาร์จอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าอุปกรณ์จะไม่ถูกใช้งานก็ตาม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้กระแสไฟฟ้าทำงานอยู่เสมอ เปรียบเสมือนการที่เราจอดรถยนต์ทิ้งเอาไว้แล้วไม่ขับออกไปไหนเลยเป็นเดือน ๆ แบบนี้ไม่ดีแน่

ดังนั้นจะต้องสตาร์ทรถบ้างเพื่อให้วงจรถูกกระตุ้น แบตเตอรี่ไม่เสื่อมสภาพไว ในกรณีของไม้ตียุงที่ใช้สำหรับช็อตยุงนั้น จะต้องชาร์จบ้างทุก ๆ 1-2 เดือน  แม้ไม่ได้ใช้งานก็ตาม และชาร์จทิ้งไว้ราว 6-7 ชั่วโมง เพื่อให้แบตเตอรี่เก็บกระแสไฟฟ้าจนเต็ม จะได้รักษาแบตฯ ให้การใช้งานแบบคุ้ม ๆ ทนทานไปอีกนาน

ชาร์จไฟไม้ตียุงไม่เข้า เกิดขึ้นจากอะไร แบบนี้ปลี่ยนแบตได้ไหม?

อาการชาร์จแบตเตอรี่ไม่เข้าของไม้ตียุง จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาจมาจากส่วนของอะแดปเตอร์ชาร์จ ขาเสียบชาร์จ หรือปลั๊กไฟหลวมก็สามารถเกิดขึ้นได้

แต่ส่วนใหญ่จะพบว่ามาจากการซื้อไม้ตียุงที่ไม่ค่อยมีคุณภาพมาใช้งาน หรืออาจจะซื้อมาแล้วปล่อยทิ้งไว้จนแบตเตอรี่หมดหลาย ๆ เดือนเข้า แล้วไม่ยอมเอามาชาร์จกระตุ้นแบตฯ สักที แบบนี้เอามาใช้งานอีกที ก็ทำให้ชาร์จไฟไม่เข้าได้ เพราะแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปเรียบร้อยแล้ว

ถ้าอุปกรณ์ยังสามารถใช้งานได้ ยังใหม่ ใช้งานได้ไม่กี่ครั้ง สามารถถอดแบตฯ ตัวเดิมแล้วไปหาซื้อตัวใหม่มาใส่แทนเข้าไปได้ และเพื่อความปลอดภัยควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่าแรงดันไฟ และกระแสไฟให้เท่ากับตัวเดิม พูดง่าย ๆ คือ เลือกซื้อสเปคเดิมมาใช้งานจะดีกว่า จะได้ป้องกันอันตราย ไม่ให้แบตเตอรี่ระเบิด หรืออุปกรณ์รับกระแสไฟไม่ไหว ทีนี้อุปกรณ์อาจจะพังเสียหาย ต้องซื้อใหม่ทั้งหมดเลยก็เป็นได้

ข้อควรรู้ในการใช้ไม้ตียุงไฟแรงสูงให้ปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้ ทางที่ดีให้เลือกซื้อยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐาน มีตาข่ายป้องกัน 3 ชั้น โดยด้านนอกจะไม่มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา เป็นเพียงตะแกรงที่ทำหน้าที่ป้องกันมือของเราไม่ให้เข้าไปสัมผัสกับตะแกรงที่มีไฟฟ้าวิ่งด้านใน และควรปฎิบัติดังต่อไปนี้สำหรับการใช้งาน

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับหน้าตาข่ายโดยตรง แม้จะเป็นรุ่นที่ได้รับการการันตีด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม เพราะบางครั้งเมื่อใช้ไปนาน ๆ อุปกรณ์อาจเสื่อมสภาพ แม้มีตะแกรงด้านนอกคอยช่วยไว้ แต่กระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็นอาจวิ่งออกมาโดนมือเราได้
2. เปลี่ยนชิ้นใหม่ทันทีถ้าตะแกรงป้องกันไฟแตกหักเสียหาย ถ้าตะแกรงด้านนอกที่ใช้สำหรับป้องกันแตกหักเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะโครงตาข่ายด้านในเป็นตัวที่กระแสไฟฟ้าวิ่ง ถ้าเผลอเปิดทิ้งไว้อาจช็อตคนในบ้านหรือสัตว์เลี้ยงหากสัมผัสโดน
3. อย่าให้ตัวอุปกรณ์เปียกชื้นอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงความชื้นให้มากที่สุด ใช้งานในที่แห้งเท่านั้น แต่ถ้าโดยความชื้นมาแล้ว แนะนำให้ปิดการทำงาน ถอดแบตเตอรี่ออกถ้าทำได้ แล้วทำความสะอาด เช็ดด้วยผ้าแห้ง ตั้งเป่าพัดลม หรือใช้ไดร์เป่าจนแห้ง ไม่มีความชื้นสะสมอยู่ เพื่อความมั่นใจ ตากทิ้งเอาไว้แบบข้ามคืนแล้วค่อยนำกลับมาใช้งานอีกครั้งเป็นดีที่สุด
4. เลือกไม้ตียุงที่มีคุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัย เลือกซื้อรุ่นที่ต้องกดปุ่มค้างเอาไว้แล้วกระแสไฟฟ้าถึงจะวิ่งมา และเมื่อปล่อยมือออกกระแสไฟฟ้าจะค้างไม่เกิน 1-2 วินาที ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้โดนช็อตได้ และอาจเลือกยี่ห้อที่มีระบบเปิด-ปิดการทำงานสองชั้น คือเปิดระบบไฟแบบเลื่อนขึ้นลง แต่กระแสไฟยังไม่ไหลไปที่ตะแกรงจนกว่าจะกดปุ่มใช้งาน หรือจับที่ระบบสัมผัสที่ด้ามจึงจะมีกระแสไฟวิ่งไปยังตะแกรงตัวกลาง แบบนี้จะปลอดภัยกว่าปุ่มเดี่ยว ๆ นั่นเอง

ถ้าหากคุณกำลังตามหาอุปกรณ์ไม้ตียุงที่มีคุณภาพ อย่าลืมแวะมาชมได้ที่ร้านขายส่ง HVGROUP ของเรา ที่นี่มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ขนาดเล็กกะทัดรัด หรือจะเป็นขนาดใหญ่ เน้นจำหน่ายแบรนด์ยอดนิยม ราคาไม่แพง พร้อมให้คำแนะนำสำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าจะเลือกซื้อเป็นตัวไหนดี เลือกใช้บริการจากทีมงานคุณภาพของร้าน รับรองว่าจะทำให้คุณไม่ผิดหวัง