ร้านขายส่งตะเกียง LED มีทั้งทรงโบราณแบบเจ้าพายุ ทรงวินเทจ และทันสมัย ที่ร้าน HVGROUP ของเรามีให้เลือกเพียบ! ตะเกียง LEDมีทั้งแบบใช้พลังงานโซล่าเซลล์ หรือแบบใช้ไฟฟ้า ชาร์จแบตได้ ไปจนถึงแบบใส่ถ่าน ยี่ห้อไหนดี ๆ เรามีรองรับให้คุณหาซื้อได้อย่างครบครันในแหล่งคลองถม เป็นโคมไฟตะเกียงที่เหมาะสำหรับแค้มปิ้ง(camping) เดินป่า ตกแต่งสนาม หรือใช้ยามไฟฟ้าดับ ฯลฯ เป็นหลอดแบบ LED สามารถเลือกความสว่างมากน้อยได้  ให้คุณเลือกซื้อได้ตามการใช้งาน หรือสะสมเป็นของตกแต่งสวย ๆ ก็ดีต่อใจไม่แพ้กัน

ตะเกียง LED คืออะไร ?

หากพูดถึงตะเกียง LED ก็คือ ตะเกียงเจ้าพายุที่มีความทันสมัยมากกว่าทั้งในด้านการใช้งานและฟังก์ชั่น ปัจจุบันที่เรามีไฟฟ้าใช้กันแทบจะทั่วบ้านทั่วเมือง แต่เคยสงสัยกันไหมว่าตะเกียง LED ยังคงเป็นไอเทมยอดฮิตที่ไม่ตกเทรนด์ แถมยังมีการถูกผลิตและพัฒนาขึ้นมาอย่างแพร่หลาย

ซึ่งปัจจุบัน แน่นอนว่านี่คืออุปกรณ์ที่เปรียบได้เหมือนกับไฟฉายส่องสว่าง ตัวตะเกียงถูกเปลี่ยนจากหลอดยุคเก่า ๆ ให้กลายเป็นหลอด LED ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานได้หลากหลาย มีหลายแบบ หลายราคา และฟังก์ชั่นเสริมมากมายให้เลือก

เราอาจจะนิยามถึงโคมไฟตะเกียงแบบ LED ได้ว่า มันคือหลอดไฟชนิดหนึ่งที่สามารถพกพาได้ เหมือนกับใช้ไฟฉาย เน้นใช้งานกลางแจ้ง หรือฉุกเฉินตอนอยู่ภายในบ้าน ดีไซน์เน้นใช้งานง่าย รูปทรงกะทัดรัด เหมาะแก่การพกพา โดยเฉพาะนักแคมปิ้ง หรือนักเดินทางที่ต้องเดินเท้าตอนกลางคืน ไปจนถึงคนที่ต้องการใช้ไฟฟ้าตามท้องไร่ท้องนา นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ และช่วยเป็นลูกมือที่ดีในการส่องสว่างได้อย่างมากเลยทีเดียว

ตะเกียงหลอด LED ราคาส่ง ถูกและคุ้มค่าที่ HVGROUP

ตะเกียง LED พร้อมให้คุณเลือกซื้อได้หลากหลายประเภท ตอบโจทย์การใช้งานได้แบบไม่ต้องเดินทางไปหาซื้อที่ไหนไกล ๆ ให้ยุ่งยาก เพราะที่ร้านขายส่ง HVGROUP เรามีไอเทมชนิดนี้ให้เลือกตามต้องการ ในราคาที่ถูก เรียกว่าจบครบตามความต้องการได้ในแหล่งเดียว

ไม่ว่าจะเป็นตะเกียง LED ที่มีแผงโซล่าเซลล์ Built-in เอาไว้ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ตะเกียง LEDที่สามารถชาร์จไฟผ่านไฟบ้าน หรือพาวเวอร์แบงค์ได้ หรือจะเป็นชนิดใส่ถ่านใช้งานก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน

ส่วนดีไซน์ก็คงไม่ต้องพูดถึง ที่ร้านของเรามีให้เลือกตั้งแต่สไตล์ตะเกียงเจ้าพายุรุ่นเก๋า ไปจนถึงทรงโมเดิร์นทันสมัย ใช้งานพกพาง่าย น้ำหนักเบา คัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพ ให้คุณเอาไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่า อายุการใช้งานยาวนาน แสงสว่างมีให้เลือกหลายระดับ และยังไม่ได้เอ่ยถึงลูกเล่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้คุณได้ลองแวะเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองกันดีกว่า

ทำความรู้จัก “ตะเกียง” มีกี่ประเภท ?

ตะเกียงเป็นลักษณะของโคมไฟชนิดหนึ่ง ซึ่งมีแหล่งกำเนิดแสงได้หลากหลาย โดยในอดีต นิยมใช้เป็นไส้ตะเกียงที่ต้องชุบด้วยน้ำมันแล้วจุดไฟขึ้นมา ซึ่งต่อมาก็มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหลอดไส้ และหลอดแบบ LED ที่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ไม่เพียงใช้งานส่องสว่าง ยังถูกใช้เป็นของตกแต่งทั้งภายในและภายนอกของสถาปัตยกรรม ให้กลิ่นอายที่ย้อนยุค ดูสวยงามมีเสน่ห์ ดังนั้นใครที่อยากรู้จักกับไอเทมชิ้นนี้กันให้มากแล้วล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าประเภทของโคมไฟตะเกียงมีกี่แบบที่ได้รับความนิยม ?

1.ตะเกียงจากพลังงานแก๊ส (Gas-Powered Lanterns)

สำหรับตะเกียงชนิดนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีต และยังคงถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน แม้เราจะมีไฟฟ้าใช้กันแล้วก็ตาม ด้วยลักษณะพิเศษ มีความโดดเด่นในการใช้ออกนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นเดินป่า แคมปปิ้ง การใช้งานในพื้นที่ ๆ ห่างไกลจากไฟฟ้า โดยเฉพาะในสวน ไร่นา ป่าลึก ขึ้นเขาสูง

ระบบแก๊สมีข้อดีคือน้ำหนักที่เบา ไม่จำเป็นต้องใช้แสงสว่างมาก สามารถใช้งานได้จากแหล่งกำเนิดแสงได้หลากหลาย อาทิเช่น

    • ตะเกียงจากเชื้อเพลิงเหลวหรือก๊าซขาว

ตะเกียงที่ใช้ความสว่างจากก๊าซขาวซึ่งเป็นเชื้อเพลิงเหลว พบได้จากการเตาทำอาหารในครัวเรือน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ให้แสงสว่างได้ดีเยี่ยม เมื่อใช้งานสามารถเลือกปรับระดับความสว่างได้ตามต้องการ ให้แสงสว่างได้นาน สามารถเปิดให้สว่างได้ทั้งคืน แถมยังควบคุมระดับการเผาไหม้ให้เพียงพอกับการใช้งานได้ด้วย อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักพอสมควร เนื่องจากเป็นแก๊สอัดในรูปของเหลว ถูกเก็บไว้ในกระป๋อง ทำให้พกพายากนิดหน่อยกรณีที่ต้องแบกสำภาระเยอะ ๆ ในการเดินทาง

ตะเกียงแบบนี้ถือว่าเป็นต้นแบบของความคลาสสิคที่ถูกใช้งาน บางครั้งข้อเสียอาจตกไปอยู่ที่เรื่องของน้ำหนัก ทว่าในปัจจุบันมีแก๊สอัดกระป๋องพกพาสำหรับเดินทางโดยเฉพาะเอาไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นแบบกกระป๋องทรงกระบอกมาตรฐาน ไปจนถึงทรงซาลาเปา ขนาดแตกต่างกันออกไป ก็สามารถเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะถ้าซื้อขนาดใหญ่ขึ้นไปหน่อย นอกจากจะใช้ให้แสงสว่างได้แล้ว ยังใช้เป็นแก๊สจุดเตาทำอาหาร เหมาะสำหรับชาวแคมป์เป็นอย่างดี

    • ตะเกียงจากแก๊สโพรเพนหรือบิวเทน

แก๊สชนิดนี้จะสามารถใช้งานได้นาน ลักษณะคืออัดเป็นแก๊สกระป๋องที่ใช้งานง่าย โดยความแตกต่างระหว่างแก๊สโพรเพนกับบิวเทนนั้น จะอยู่ที่ “จุดเดือด” โดยบิวเทนจะอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส ในขณะที่โพรเพนอยู่ที่ -42 องศาเซลเซียส ถ้าแนะนำก็คือเลือกใช้เป็นแบบโพรเพน ซึ่งแม้อากาศจะหนาวจนติดลบ คุณก็ยังคงจุดตะเกียงได้ เหมาะสำหรับใช้ได้ทั้งอากาศทั่วไป หรือจะขึ้นดอยที่ยิ่งสูงยิ่งหนาว ก็มีแสงสว่างนำทางได้สบายใจกว่าแบบบิวเทน

2.ตะเกียงจากพลังงานไฟฟ้า (Electric Lanterns)

มาถึงชนิดของตะเกียงที่พัฒนาขึ้นมาตามเทคโนโลยีในปัจจุบัน แหล่งกำเนิดแน่นอนว่ามาจากพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นได้มากขึ้นและเป็นที่นิยมคือตะเกียงที่มาจากหลอดไฟ LED โดยที่การออกแบบจะสามารถใช้งานในพื้นที่ ๆ ไม่มีไฟฟ้าได้ โดยอาจใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ หรือตะเกียงไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถชาร์จไฟเก็บไว้ ถ้าแบตฯ หมดก็ชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ได้

ข้อดีของตะเกียงในกลุ่มนี้ยังมีน้ำหนักที่เบา ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวไฟไหม้ ส่วนความสว่างมีให้เลือกหลายระดับในหน่วยลูเมน แถมฟังก์ชั่นการใช้งานยังเอนกประสงค์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดระดับแสงสว่าง การเลือกสีอุณหภูมิแสงได้ในหลอดเดียวก็มี ซึ่งบางรุ่นที่กำลังได้รับความนิยม ยังมีแหล่งกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือแผงโซล่าเซลล์ติดตั้งเอาไว้ให้ด้วย เป็นอีกทางเลือกสำหรับการชาร์จพลังงานระหว่างวันในกรณีฉุกเฉิน หรือหากต้องการเก็บแบตเตอรี่เอาไว้ใช้ในยามจำเป็น

ข้อดีของตะเกียง led ทำไมต้องเลือกใช้ จำเป็นแค่ไหนกันเชียว ?

อย่างที่บอกไปด้านบนว่าตะเกียงที่ใช้ไฟฟ้ามีข้อดีมากกว่าตะเกียงเจ้าพายุรุ่นคลาสสิคที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงจากการเผาไหม้ ดังนั้นข้อดีของตะเกียง LED จึงมีมากกกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าฝนตกแล้วไฟจะดับ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก เพราะออกแบบมาให้มีความเบา ดีไซน์ที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมให้มากมาย ขนาดกะทัดรัด แต่ให้แสงสว่างได้มาก แค่คุณมีพลังงานไฟฟ้าเพียงพอ ก็กดสวิตซ์เปิดใช้งานได้ทันทีในเวลาที่ต้องการ ไม่ต้องมานั่งจุดไฟด้วยไม้ขีด

อีกทั้งไม่ต้องกลัวปัญหาจากไส้ตะเกียงที่อาจหมดกลางครันจนหาเปลี่ยนไม่ทัน เพราะหลอด LED ไม่จำเป็นต้องใช้ไส้หลอดไฟ มีอายุการใช้งานยาวนานหลายหมื่นชั่วโมง มั่นใจได้ว่าคุณจะคุ้มค่าไปกับคุณสมบัติของไอเทมชิ้นนี้ แม้ว่าความคลาสสิคอาจลดเลือนลงไปจากแหล่งพลังงานแสงสว่างที่ได้ แต่ในด้านดีไซน์คุณก็เลือกเอาทรงที่ย้อนยุค อิงแอบกับความโบราณได้

เลือกซื้อตะเกียง led ยี่ห้อไหนดี? ให้คุ้มค่า

เนื่องจากโคมไฟตะเกียงมีให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าให้นิยมมากที่สุดก็เห็นจะเป็นชนิดไฟฟ้าแบบหลอด LED ซึ่งใช้งานง่าย และมีความปลอดภัยสูง การเลือกซื้อโดยไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน อาจจะเริ่มต้นจากเลือกก่อนว่าคุณจะซื้อไปใช้งานภายในบ้าน ตามสวน หรือแม้กระทั่งนำไปถวายวัดเพื่อใช้เป็นแสงสว่างแบบประหยัดพลังงานไฟฟ้าก็ตามที

ตะเกียง LEDที่มีคุณภาพนั้น จะต้องถูกออกแบบมาอย่างดีที่สุดสำหรับการใช้งานได้อย่างตรงเป้าหมาย โดยใช้หัวข้อเหล่านี้เป็นผู้ช่วยพื้นฐานในการเปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้นกับแต่ละจุดประสงค์

1.เลือกระหว่างตะเกียงแบบ LED หรือแบบแก๊ส

การเลือกระหว่างระบบไฟฟ้ากับระบบแก๊ส หากตามประสิทธิภาพและความปลอดภัยแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าตะเกียง LED มีข้อดีที่น่าใช้งานมากกว่าแบบแก๊สที่คุณต้องพกทั้งกระป๋องอัดแก๊ส และตะเกียงเอาไปใช้งานด้วย ระบบไฟฟ้ามีข้อดีที่มากกว่า เนื่องจากผลิตขึ้นมาแก้ไขปัญหาตะเกียงที่มาจากการเผาไหม้ มีน้ำหนักที่เบา เลือกใช้แหล่งพลังงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะมาจากแบตเตอรี่, ถ่าน หรือพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ว่าคุณจะใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวติดลบ หรืออากาศร้อนจัดเกิน 40 องศาเซลเซียส ก็ใช้งานไฟฟ้าได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความกดอากาศใด ๆ แม้จะเป็นพื้นที่ ๆ มีออกซิเจนต่ำ ก็บอกเลยว่าให้แสงสว่างได้อย่างไร้กังวลแน่นอน

2.ระดับความสว่าง (Lumen) ที่เหมาะสม

ความสว่างของตะเกียง ซึ่งเราจะเปรียบเทียบกันในหน่วยลูเมน ตะเกียง LEDควรมีความสว่างที่เพียงพอให้กับพื้นที่บริเวณที่คุณใช้งาน แต่ต้องไม่สว่างจ้าจนทำให้ดวงตาของคุณมีปัญหาเมื่อเผลอไปจ้องแสงไฟเข้าตรง ๆ ดังนั้น อย่าเพิ่งเลือกที่ค่าลูเมนสูง ๆ เอาไว้อย่างเดียว แต่ต้องคำนึงว่าคุณใช้งานในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่กว้างมากนัก ก็ใช้ค่าลูเมนสัก 60-100 ก็ถือว่ากำลังดี สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ขนาดกะทัดรัด อย่างแขวนภายในเต้นท์ หรือใช้ส่องนำทางในการเดินป่า แต่ถ้าหากต้องใช้งานแบบจัดหนักแล้วล่ะก็ ลองมองหาสัก 200-500 ลูเมน โดยให้วางในตำแหน่งที่สูงเหนือศีรษะขึ้นไป เพื่อป้องกันแสงสว่างปะทะกับดวงตาของคุณโดยตรง

3.น้ำหนักและขนาดที่พอดี

วางแผนให้ดีว่าจะใช้ตะเกียง LED ไปกับกิจกรรมใด เอาตามทั่ว ๆ ไปคือเราใช้เป็นแสงสว่างพกพาประจำบ้าน ตกแต่งตามทางเดินหน้าบ้าน ฯลฯ ขนาดที่เหมาะสมก็อาจจะไม่ต้องใหญ่จนเกินไป เน้นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา เพราะจะได้หิ้วได้สะดวก พกพาง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่ในการวางให้เกะกะมาก

ถ้าหากเป็นการตั้งแคมป์ โดยที่มีรถยนต์เดินทางส่วนตัวไปด้วย คุณอาจจะต้องเลือกขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพราะการเดินทางด้วยรถยนต์ไม่มีปัญหากับการบรรทุกไอเทมชิ้นนี้อยู่แล้ว ด้วยขนาดที่ใหญ่นั้นก็เพื่อที่เราจะได้ใช้แสงสว่างได้มากพอ แต่ถ้าคุณเป็นสายแบกเป้ ก็ควรจะเลือกขนาดและน้ำหนักที่ไม่ทำให้เป็นภาระหัวไหล่ อาจเลือกเป็นรุ่นพับเก็บได้ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเช่นกัน

4.อายุการใช้งานของแบตเตอรี่

อายุการใช้งานของแบตฯ ในที่นี้ ก็คือระยะเวลาที่ไฟจะสว่างได้นานแค่ไหนกับการเปิดแต่ละครั้ง สิ่งที่คุณจะต้องมองหาคือประเภทของแบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก แนะนำว่าหากเป็นการเดินทางไกล เดินป่า ตั้งแคมป์ในที่มืดมาก ไม่มีไฟฟ้าใช้แล้วล่ะก็ ควรเลือกเป็นแบบแบตเตอรี่ชาร์จได้ เพราะคุณสามารถพกเอาแบตฯ สำรองไปใช้เติมได้ แต่หากใช้แค่ภายในพื้นที่บ้าน เปิดเป็นครั้งคราว ใช้แบบใส่ถ่านอัลคาไลน์ธรรมดาก็เพียงพอ กรณีที่ต้องอยู่ในป่าเป็นเวลานาน อาจจะ 2-3 วัน ให้มั่นใจว่า คุณจะหาแหล่งกำเนิดไฟสำรองสำหรับชาร์จตะเกียง LED ได้ ซึ่งอาจจะต้องเลือกเป็นแบบแบตเตอรี่ในตัวที่มีระบบชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งแบบแผงโซล่าเซลล์แยก และแบบแผงโซล่าเซลล์ Built-in ในตัว

5.ความสามารถในการกันน้ำ

เพราะโคมไฟตะเกียง LED ส่วนใหญ่กว่า 80% ใช้งานภายนอกอาคาร กลางแจ้ง กันอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช่แค่วัสดุที่สมบุกสมบัน ทนต่อแรงกระแทก มันยังต้องถูกออกแบบมาให้มีระบบป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปทำลายวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้งานตามบ้านเรือน หรือพกออกไปตั้งแคมป์ เดินป่า ไปทำสวนไร่นาก็ตาม คุณควรเลือกซื้อยี่ห้อที่สามารถป้องกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเป็นการใช้งานแบบกลางแจ้งไม่ได้ลงน้ำ มาตรฐานการกันน้ำอาจเลือกอยู่ที่ IPX-4 ก็เพียงพอ แต่ถ้าหากต้องการป้องกันน้ำลึก (ประมาณ 2-3 เมตร) แนะนำว่าให้เลือกเป็นมาตรฐาน IPX-8 จะได้ช่วยให้แสงสว่างจากโคมตะเกียงของเราใช้งานได้แบบไร้ปัญหากังวลใจตามมา

ประโยชน์คูณสอง เป็นของแต่งบ้านในตัวด้วยนะรู้ยัง?

ความสวยงามที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมดาทั่วไปที่เน้นการใช้งาน แต่ทว่ามันกลับถูกใช้เป็นอุปกรณ์ที่มากกว่านั้น เพราะคุณสามารถใช้จัดวาง ตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ของบ้านให้ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากเป็นรูปแบบที่มีความย้อนยุค เหมาะสำหรับการผสมผสานให้เคล้าไปกับความร่วมสมัย สไตล์นอร์ดิก โมเดิร์น ฯลฯ หรือจะเป็นการหยิบเอาไปวางให้ดูแปลกตาในโซนของห้องที่มีความโมเดิร์นทันสมัยก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย

การตกแต่งให้ดูสวยงามภายในห้องรับแขก

ห้องรับแขกคือพื้นที่ ๆ เป็นทั้งห้องนั่งเล่น และห้องสำหรับต้อนรับผู้คนให้แวะเข้ามานั่งพูดคุยกันที่พื้นที่ตรงนี้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นห้องเอนกประสงค์ที่ถูกใช้งานอย่างหลากหลาย การเติมแต่งความเปล่งประกายของแสงไฟที่สาดส่องออกมาจากอุปกรณ์ที่ดีไซน์อย่างสวยงามและมีความแปลกตา ชวนให้ห้องนี้ดูมีมนต์ขลังยิ่งขึ้น

เติมแต่งภายในห้องนอน เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย

แม้ห้องนอนจะเป็นห้องที่เราควรตกแต่งให้มีแสงสว่างน้อยที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนช่วงเวลาของการนอนหลับ ทว่าแสงไฟที่มีความนุ่มละมุนตา ผสมผสานกับดีไซน์ที่น่าสวยงามจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย ขจัดความเครียด และนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มตลอดคืนจนถึงเช้า เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศของห้องนอนที่อาจเรียบทื่อให้ดูมีสีสันในแบบที่อบอุ่น ละมุน โดยการใช้แสงในโทนส้มแบบ Warm white แต่งแต้มเบา ๆ เข้าไปในจุดที่เหมาะสม จะทำให้ห้องดูน่านอน สวยงามด้วยแสงสว่างที่กระจายตัวออกมาอย่างบางเบานวลตา เหมือนเพลงที่ช่วยขับกล่อมคุณให้หลับใหลไปกับความฝันที่แสนสุข

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากการตกแต่งได้หลากหลายจุดภายในที่พักอาศัย หรืออาคารสำนักงาน อาจจะวางเอาไว้บนโต๊ะอาหารสำหรับมื้อค่ำสุดพิเศษ หรือจะใช้แขวนบนเพดานเพื่อสร้างแสงสว่างที่แปลกตา ผสมผสานกับดีไซน์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ดังนั้นไม่ว่าจะจัดวางลงตรงไหน ไม่เพียงแค่ความสว่างที่จะช่วยเติมพื้นที่ให้ดูมีชีวิตชีวาเท่านั้น แต่ยังเป็นของตกแต่งที่เสริมบรรยากาศให้ดูน่ารื่นรมย์ไปในตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

จากข้อมูลของตะเกียง LED ที่กล่าวไปทั้งหมด หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านได้เลือกซื้อหาไอเทมที่ใช่และตรงใจกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แต่ถ้ายังหาตะเกียง LED ในแบบที่ต้องการไม่ได้ บอกเลยว่าที่ HVGROUP ของเราคือคำตอบที่จะช่วยให้คุณค้นพบสินค้าที่ต้องการได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะตะเกียงรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ ยี่ห้อไหน ๆ ที่ว่าดี ที่ว่าสวย รวบรวมเอาไว้ให้ทุกท่านได้เข้ามาค้นพบด้วยตัวเองกันได้เลย